ก่อนหน้านี้ การ์นาโช่เคยเกือบย้ายมาเชลซีในตลาดเดือนมกราคม โดยเจ้าตัวเชื่อมั่นว่าเรื่องจะจบลงด้วยการย้ายทีม แต่ดีลดังกล่าวไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองสโมสรก็ยังเปิดช่องการเจรจามาโดยตลอด และล่าสุดเริ่มมีความจริงจังมากขึ้น แม้ว่ายังไม่มีข้อตกลงอย่างเป็นทางการในตอนนี้

ยูไนเต็ดประเมินค่าตัวของการ์นาโช่ไว้ราว 60 ล้านปอนด์ตั้งแต่ช่วงต้นซัมเมอร์ โดยในมุมมองของสโมสร การขายนักเตะที่เติบโตมาจากอะคาเดมีอย่างเขาถือเป็นดีลที่มีกำไรสูงในแง่ของกฎกำไรและความยั่งยืน (Profit & Sustainability Rules)

อนาคตของการ์นาโช่เริ่มไม่แน่นอนนับตั้งแต่ยูไนเต็ดพ่ายแพ้ในนัดชิงยูโรป้าลีกต่อสเปอร์สในเดือนพฤษภาคม ซึ่งหลังเกมดังกล่าว อาโมริมให้สัมภาษณ์ว่า การ์นาโช่ควรมองหาสโมสรใหม่ และย้ำถึงความรู้สึกว่า "การ์นาโช่ต้องการความท้าทายใหม่กับผู้นำแบบใหม่"

แม้เจ้าตัวจะมีชื่อในทีมชุดทัวร์เอเชียหลังจบฤดูกาล แต่บรรยากาศระหว่างเขากับทีมดูห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด และสุดท้ายก็ไม่มีชื่อในทีมที่ไปทัวร์สหรัฐฯ 3 นัดล่าสุด โดยถูกแยกให้ซ้อมต่างเวลาจากทีมชุดหลัก พร้อมกับกลุ่มนักเตะที่ไม่อยู่ในแผน อาทิ ไทเรลล์ มาลาเซีย, เจดอน ซานโช, อ็องโตนี่ และมาร์คัส แรชฟอร์ด (ที่เพิ่งย้ายไปบาร์เซโลนาแบบยืมตัว)

อาโมริมกล่าวถึงการ์นาโช่ในการทัวร์ที่ชิคาโกว่า
“ทุกคนเห็นว่าเขามีพรสวรรค์ เขาเป็นเด็กที่มีของจริง ๆ แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้เวิร์ก ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่าทำไม แค่รู้สึกได้ว่าการ์นาโช่อยากได้บางอย่างที่แตกต่างออกไป และผมเข้าใจได้ มันเป็นเรื่องธรรมดาในฟุตบอล”